วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2557

บริจาคเครื่องจักรมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ท่านพินิจ จารุสมบัติ คุณสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ร่วมประชุมคณะท่านอธิการบดี และคณะบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เพื่อบริจาคเครื่องจักร และอนาคตความร่วมมือด้านการศึกษา การวิจัยเพื่อการพัฒนาคน และอุตสาหกรรม ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 25 มิ.ย. 57






วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557

มิลล์คอน สตีล' แจงแผนคืบลงทุน 5 ปี


จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,958 วันที่ 19 - 21  มิถุนายน  พ.ศ. 2557

พิมพ์
 เมื่อปี 2556 บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ  MILL ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็ก ออกมาประกาศแผนขยายธุรกิจระยะ 5 ปี (2557-2561) โดยใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งนำเงินไปซื้อทรัพย์สินของบริษัท อุตสาหกรรมเหล็กกล้าไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TSSI ของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์(ผู้ก่อตั้ง)และใช้สำหรับพัฒนาการผลิตเหล็กทรงยาวเกรดพิเศษ  รวมถึงการใช้งบในการมุ่งสู่การต่อยอดในอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง  เช่น การนำเหล็กก่อสร้างไปผสมกับปูนซีเมนต์ หรือคอนกรีตขึ้นรูปเป็นชิ้นงาน
 สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล   ล่าสุด นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) แจงความคืบหน้าแผนลงทุนดังกล่าว รวมถึงมองภาพรวมอุตสาหกรรมเหล็กในปัจจุบัน ผ่าน"ฐานเศรษฐกิจ"
-ฝากความหวังครึ่งปีหลัง
    เขาย้ำว่า  MILL ยังคงให้ความสำคัญกับกลุ่มเหล็กก่อสร้างสำหรับใช้งานทั่วไป และกลุ่มเหล็กเกรดพิเศษ สำหรับอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อความปลอดภัย เช่น ยานยนต์  เพียงแต่ในช่วง 2 ไตรมาส(ม.ค.-มิ.ย. 57) การบริโภคเหล็กชะลอตัวลง เนื่องจากมีวิกฤติการเมืองทำให้อุตสาหกรรมต่อเนื่องไม่ขยายตัว โดยเริ่มส่งสัญญาณมาตั้งแต่ไตรมาสแรกปีนี้ เปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ที่การบริโภคตกไปถึง 20%  เมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เข้ามาบริหารประเทศ  ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ฝากความหวังไว้กับครึ่งปีหลัง ที่จะมีการลงทุนต่อเนื่อง มีการอนุมัติโครงสร้างพื้นฐาน ปล่อยใบอนุญาตตั้งโรงงาน(รง.4) เร็วขึ้น  เมื่อทุกอย่างถูกเร่งรัดให้เร็ว ก็น่าจะทำให้อุตสาหกรรมเหล็กมีการเติบโตได้ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4ปีนี้ โดยคาดว่า  ถ้าจีดีพีของประเทศขยายตัวได้ 2-3% ก็จะทำให้การบริโภคเหล็กตลอดปี 2557ขยายตัวได้ 5% เมื่อเทียบกับปี 2556 ที่มีการบริโภคเหล็กจำนวน 17 ล้านตันเศษ
    ซีอีโอ MILL ยังกล่าวอีกว่า ปี 2557 เป็นปีที่ผู้ผลิตในประเทศถูกแชร์ส่วนแบ่งตลาดโดยการนำเข้า โดยเฉพาะเหล็กแผ่น แม้ว่าขณะนี้ไทยมีมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดเหล็กแผ่น และเหล็กลวดจากต่างประเทศออกมาแล้วทั้งมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด(Anti- dumping:)หรือ เอดี และมาตรการปกป้องชั่วคราว (เซฟการ์ด) ก็ตาม

-วางกลยุทธ์ชดเชยครึ่งแรก
     ดังนั้นครึ่งปีแรกปี 2557 ตลาดเหล็กยังต้องรับศึกหนักจากการนำเข้า และภาพรวมเศรษฐกิจไม่ดีจากผลกระทบทางการเมือง ทำให้การใช้เหล็กหดตัวลง  ในครึ่งปีหลัง MILL จึงต้องวางกลยุทธ์และปรับตัวมากขึ้น โดยพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ทดสอบเหล็กเกรดพิเศษ ผลิตวัตถุดิบ เพื่อนำไปผลิตเหล็กเกรดพิเศษ จากเดิมนำบิลเล็ตมาผลิตเหล็กเส้นธรรมดา ก็นำมาพัฒนาผลิตเหล็กที่มีคาร์บอนสูงมากขึ้น โดยมีขนาดกำลังผลิต 6 แสนตันต่อปี
    นอกจากนี้ปี 2557 ยังเป็นช่วงที่ MILLพร้อมเปิดตัวสินค้าตัวใหม่โดยนำเหล็กก่อสร้างมาต่อยอดการผลิตเหล็กที่มี แรงดึงสูงป้องกันแผ่นดินไหวโดยผลิตเหล็กแรงดึงสูง เป็นเหล็กเกรด SD 50-60 จากเดิมที่ผลิตเกรดธรรมดาคือเกรด SD 40 ทำให้ผู้รับเหมาประหยัดต้นทุนเพราะจะใช้ปริมาณเหล็กน้อยลงเมื่อเทียบกับ เหล็กเกรดธรรมดา และนอกจากปรับเป็นเหล็กเกรดพิเศษแล้วยังต่อยอดด้วยการผลิตเป็นข้อต่อ และตัดพับในหน้างาน เพื่อให้ผู้รับเหมาลดการสูญเสียในขบวนการผลิตที่หน้างานได้ถึง 10%  โดยใช้กำลังผลิตเหล็กเส้นเดิมที่มีจำนวน 6 แสนตันต่อปี  แบ่งมาผลิตเหล็กแรงดึงสูงจำนวน15% ของการผลิตเหล็กเส้นทั้งหมด

-แจงราคาเหล็ก 3 ระดับ  
    ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ MILL กล่าวถึงราคาเหล็กแรงดึงสูงจะมี3 ระดับคือ 1.เหล็กมาตรฐานธรรมดาขายราคา 2 หมื่นบาทต่อตัน หรือกิโลกรัมละ 20 บาท  2.เหล็กแรงดึงสูงราคาจะเพิ่มขึ้นมาอีก 1,500 บาทต่อตัน  โดยลูกค้าจะประหยัด เพราะใช้ปริมาณไม่มากเท่ากับการใช้เหล็กมาตรฐาน 3. เหล็กแรงดึงสูงที่มีเหล็กข้อต่อ ราคาก็จะบวกขึ้นไปอีก 1,500 บาทต่อตัน
    ปัจจุบัน MILL มีกำลังผลิตเหล็กทั้งสิ้น 8.50 แสนตันต่อปี แบ่งเป็นเหล็กเส้นจำนวน 6 แสนตันต่อปี และเหล็กรูปพรรณ 2.50 แสนตันต่อปี
    ซีอีโอ MILL ยังกล่าวอีกว่าในอนาคตมีแผนผลิตเหล็กสำเร็จรูปให้ผู้รับเหมาสามารถนำไปขึ้น รูปที่หน้างานได้ทันที โดยไม่ต้องมาเสียเวลาเชื่อม หรือนั่งผูกลวด  รวมไปถึงแผนพัฒนาไปถึงขั้นสร้างเป็นชิ้นงานสำเร็จรูป โดยผสมคอนกรีตไปด้วย ชิ้นงานจะออกมาเป็นเสาคอนกรีตสำเร็จรูป หรือแผ่นปูพื้นคอนกรีตสำเร็จรูป ที่มีส่วนประกอบเหล็กแรงดึงสูงและคอนกรีต ช่วยให้ผู้รับเหมาสะดวก และทำให้งานก่อสร้างเร็วขึ้น

-Q3 ซื้อทรัพย์สิน TSSI สำเร็จ
    ส่วนความคืบหน้าในแผนลงทุนจำนวนกว่า 3 พันล้านบาท สำหรับซื้อทรัพย์สินของบริษัท  TSSI นั้นเงินทุนส่วนนี้จะมาจากการเพิ่มทุนอย่างน้อย 1.5 พันล้านบาทจากผู้ร่วมทุนไทยและต่างชาติ  และมาจากเงินกู้จากสถาบันการเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะนี้ความคืบหน้าเดินมาถึงขั้นตอนกฎหมายแล้ว ภายในไตรมาส 3 ปี 2557 จะซื้อทรัพย์สินได้ และในปี 2558 จะเห็นภาพของ MILL มีการผลิตเหล็กครบวงจรตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยจะมีทั้งเหล็กต้นน้ำ โดยนำเศษเหล็กมาผลิตบิลเล็ต (วัตถุดิบสำหรับผลิตเหล็กรูปทรงยาว เช่นเหล็กเส้น)  เหล็กกลางน้ำ (เหล็กก่อสร้างและเหล็กเกรดพิเศษ)และผลิตเหล็กปลายน้ำ เช่น นอต, สกรูฯลฯ

-กะฟันรายได้โตกว่า 2 หมื่นล.
    สำหรับรายได้จากการดำเนินกิจการ MILL  ปัจจุบันมีรายได้ต่อปีราว 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งรายได้ยังไม่มาก แต่มีความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น และในปี 2558 เมื่อเข้าไปบริหารทรัพย์สินใน TSSI ได้แล้ว MILL จะมีรายได้ดีขึ้นโดยเฉพาะ TSSI  ที่ปีแรกจะมีรายได้ 9 พันล้านบาท   ก็จะทำให้ MILL มีรายได้รวมเพิ่มทันที 2.20-2.30 หมื่นล้านบาท ในปีแรกเมื่อเข้าไปบริหาร TSSI
    ส่วนการปูฐานออกไปลงทุนในต่างประเทศ  ล่าสุดบริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทต่อหน่วยงานภาครัฐของ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่คณะกรรมการบริษัทมีมติการอนุมัติแผนการจัดตั้งบริษัทย่อยขึ้นใน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ก่อนหน้านี้  เพื่อเป็นการขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้าน  เป็นการเปิดตลาดการค้าใหม่ จึงตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ภายใต้ชื่อ บริษัท มิลล์คอน ธิฮา จำกัด (MillconThiha Co.,Ltd.)โดยจะเริ่มต้นด้วยการดำเนินธุรกิจเทรดดิ้งสินค้าประเภทเหล็กและ วัสดุก่อสร้าง  ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับ Myanmar Thiha Group พันธมิตรจากประเทศเมียนมาร์ ที่จะเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 49% ขณะที่ MILLCON ถือหุ้นในสัดส่วน 51% 
    โดยการลงทุนในเมียนมาร์บริษัทได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้มานานร่วม 3 ปี  และอนาคตจากนี้ไปก็จะทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งฐานการผลิตเหล็กก่อสร้างในประเทศดังกล่าวด้วย หลังจากที่กฎเกณฑ์ในเมียนมาร์เริ่มเอื้อต่อนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับปัจจุบันเมียนมาร์ใช้เหล็กต่อปี 2 ล้านตัน มีการบริโภคเหล็ก19 กิโลกรัมต่อหัวต่อปี  ซึ่งยังเป็นปริมาณน้อย ทำให้มองเห็นโอกาส  เพราะมีแนวโน้มเกิดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอีกมาก MILL จึงต้องออกไปปักธงรอก่อน
    "ทั้งหมดนี้เป็นเป้าหมายของ MILL ที่มีการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กอย่างต่อเนื่อง  ส่วนหนึ่งก็เพื่อเตรียมพร้อมรับการเปิดตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ที่จะมีขนาดตลาดใหญ่ขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดต้นทุนรวมและเพิ่มรายได้และผลกำไรมากขึ้นโดยการเป็นผู้ผลิตเหล็กครบวงจร ตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้"  

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

“Open Mind : อาสาฬหบูชา เข้าพรรษา พาคิดบวก”วันเสาร์ที่ 5 ก.ค. 57





             กิจกรรมOpen Mind : อาสาฬหบูชา เข้าพรรษา  พาคิดบวก”เพื่อเสริมสร้างทัศนคติเชิงบวก สืบทอดวัฒนธรรมประเพณีไทย และสร้างแรงงานสัมพันธ์อันดีระหว่างพนักงาน เพื่อนร่วมงานและองค์การ ส่งให้พนักงานมีจิตใจเบิกบาน มีความสุข มีความคิดเชิงบวกในการทำงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ  สุงสุดในการทำงาน



                                     



วันเสาร์ที่  5 ก.ค. 57
ภูเขาทอง-พระแก้วมรกต-พระปรางค์วัดอรุณ-วังหลัง


06.00 รถตู้บริษัทออกเดินทางจากโรงงานระยอง ใช้เวลาเดินทาง 3 ช.ม. (1 คัน)


07.30  รถตู้บริษัทออกเดินทางจากโรงงานพระราม 2 (1 คัน)


08.00  รถตู้บริษัทออกเดินทางจากธนิยะ(1 คัน)


09.00 พร้อมกันที่วัดสระเกศ สักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระบรมบรรพตเจดีย์ ถวายสังฆทานบนพระเจดีย์ทอง


10.30 กราบขอพรพระแก้วมรกต ชมภาพเขียนรามเกียรติ์ พระบรมมหาราชวัง@ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม


12.00 ทานข้าวเที่ยง@ท่าเตียน บริเวณที่ยักษ์วัดแจ้งกับยักษ์วัดโพธิ์มาตีกัน^^


13.00 ลงเรือข้ามฟากไปวัดอรุณ ทำบุญไหว้พระ ชมพระปรางค์วัดอรุณ ศาลพระเจ้าตากสิน พบยักษ์วัดแจ้งตัวจริง


15.00 ขึ้นเรือไปท่าวังหลังซื้อของฝาก ขนม มะขามหวาน ฯลฯ


   16.00 ลงเรือกลับมาที่ท่าช้าง ขึ้นรถตู้บริษัทเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

 


จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม

พระราม 2   :   12  คน
ระยอง         :   12  คน
ธนิยะ          :   12  คน

รวม 36 คน

การเดินทาง
ระยอง           รถตู้     1 คัน
พระราม 2     รถตู้     1 คัน
ธนิยะ            รถตู้     1 คัน

การแต่งกาย
  •  เสื้อมีแขน กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบ ห้ามใส่แขนกุด สายเดี่ยว ขาสั้น สามส่วน    เลคกิ้ง รองเท้าแตะ เพราะท่านจะเข้าวัดพระแก้วไม่ได้ค่ะ
  
สมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ HR ทุกสาขา
พระราม 2 : K.น็อต
ระยอง       : K.เดียร์
ธนิยะ         : K.หนึ่ง

แจ้งชื่อได้ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 3 ก.ค. 57 หรือจนกว่าจะเต็ม

**** ไปทำบุญด้วยกันนะคะ^^ ****

วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Operation : สร้างกำไร วิธีการประหยัดจากพวกเรา^^



ช่วยกันทำคนละไม้ละมือนะคะ^^

1. แยกสวิตซ์ไฟออกจากกัน ให้สามารถเปิดปิดได้เฉพาะจุดแทนการใช้ปุ่มเดียว ลดการสิ้นเปลือง

2. ปรับปรุงเครื่องจักรให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน 

3. ในสำนักงาน เวลามีประกาศอะไรออกมา ให้ใช้เป็นเอกสารส่งต่อๆ กัน แทนการสำเนาเอกสารเพื่อลดการใช้กระดาษ
Thanongsak Nakket

1. ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกครั้งหลังจากใช้งาน, ปิดไฟใน Office ช่วงพักเที่ยง
2. ดูแล บำรุงรักษาเครื่องจักรที่รับผิดชอบ ให้พร้อมใช้งานเพื่อ Break Down and Delay
3. นำถุงมือผ้า และผ้าปิดจมูก ที่ใช้งานแล้วซักทำความสะอาดและนำกลับมาใช้ใหม่
Wichan Buasri

พี่ 1 ร่วมกิจกรรมช่วยกันประหยัดครับ


การช่วยกันประหยัดการใช้อุปกรณ์ PPE


หมวกนิรภัย เช็ดทำความสะอาด เป็นประจำ ทำให้สภาพของหมวกสะอาดและหน้าใช้อยู่เสมอครับ
รองเท้านิรภัย  ทำความสะอาด โดยการเช็ด ขัดหรือถ้าชักได้ก็ดี ตากแดดให้แห้ง  จะช่วยให้ยืดอายุการใช้งานได้นาน ครับ

ส่วนอุปกรณ์ที่พนักงานออกแล้วนำมาคืน ถ้าสภาพที่ยังดี(ใหม่) ควรทำความสะอาดและเก็บไว้ให้กับพนักงานที่เข้ามาใหม่ในช่วงทดลอง ก็จะได้ไม่ต้องสั่งชื้อเพิ่มครับ

(ปัจจุบันทำอยู่ครับ) อิอิอิ
  
Best regards,  
Kamol  Pimsub
Safety Officer

1. ปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ช่วงพักเที่ยง และไม่ชาร์ตแบตโทรศัพท์ในที่ทำงาน
2. วางแผนงานในส่วนของซ่อมบำรุงเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ใฝ่หาความรู้ใหม่ๆนำมาประยุกค์ใช้ในการทำงาน
3. ใช้กระดาษให้ครบทั้ง 2 หน้า และใช้ทรัพยากรของบริษัทอย่างรู้คุณค่ามากที่สุด
     
JEERAPORN JOMLONG


ตอบ เปิดเครื่องปรับอากาศไว้ล่วงหน้าก่อนเวลาเข้าเริ่มงานและปิดเครื่องปรับอากาศก่อนเวลาเลิกใช้งาน

เพื่อเป็นการประหยัดพลังงานไฟฟ้าในที่ทำงาน  ค่ะ.... (0 ^_^ 0)

อชิรญา ฝ่ายขายพระราม 2 คะ

1. ปิดไฟในสำนักงานเวลาพักเที่ยง
2. พัฒนาความรู้ความสามารถ เพื่อนำมาเพิ่มผลผลิตในการทำงาน
3. ส่งสารภายในองค์กรโดยใช้ e-mail แทนการใช้กระดาษ
 

Jukkrapong Saedan
Electrical   Engineer


1. เปิดไฟเฉพาะจุดที่ใช้งาน
2. บำรุงรักษาเครื่องจักรให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
3. ใช้กระดาษ Re-use ภายในองค์กร
Sumalee Sakulsurarak


1.ปิดคอมและไฟแสงสว่างทุกครั้งที่ไม่ใช้งาน
2.ตรวจเช็คเครื่องจักรให้พร้อมใช้งาน
3.ปิดน้ำทุกครั้งหลังจากใช้เสร็จ

Sonthaya      Chaiyo  
Electrical   Engineer



    วิธีช่วยประหยัดและสร้างกำไรให้บริษัท


1. ใช้วิธีสแกนเอกสารเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์แทนการถ่ายเอกสารเข้าแฟ้ม เพื่อเป็นการประหยัดกระดาษและแฟ้มงาน

2. เป็นการลดการเบิกใช้งานของแฟ้ม และประหยัดกระดาษ

3. ช่วยบริษัท ประหยัดกระดาษ เพราะเอกสารบางอย่างแค่ถ่ายเก็บไว้เป็นหลักฐานไว้ดู ไม่จำเป็นถึงต้องถ่ายเอกสาร
    หากมีปัญหาค่อยเรียกดูจากคอมพิวเตอร์ ลดพื้นที่การจัดเก็บ ลดทรัพยากรกระดาษ  ลดการใช้แฟ้ม
Jiranat  Tamcharoen
Document Control Officer

1.  ปิดไฟในห้องพักทุกครั้งเมื่อออกไปหน้างาน
2.  จัดเตรียม  Spare  Part  ให้พร้อมเปลี่ยนทุกกรณีที่เกิดการซ่อมฉุกเฉิน  เพื่อลดการการ  Delay  ระหว่างการผลิต
3.  ในการประสานงานระหว่างหน่วยงาน  ลดการใช้กระดาษ และใช่สื่อสารโดย  E-mail
thitipha  yoothomya 
Clerk and Document Control

คุณ สมภาร  ศรีโพธิ์  แผนกซ่อมบำรุงอยากร่วมตอบคำถาม เพิ่มกำไร ลดต้นทุนค่ะ
คือ ช่วยเก็บอุปกรณ์ หลังจากเลิกใช้งาน และทำความสะอาดให้อุปกรณ์ดูใหม่อยู่เสมอ ถ้าพบการรั่ไหลของน้ำมันก็จะรีบซ่อมจะไม่ปล่อยให้ไหลทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ ค่ะ

นพรัตน์  รอดพาที พนักงานขับรถตู้  ช่วยปิดน้ำก๊อกเมื่อพบเห็นก๊อกน้ำเปิดทิ้งหรือปิดไม่สนิทและเมื่อพบก๊อกน้ำรั่วพอซ่อมได้เบื้องต้นก็จะซ่อมให้ครับผม


วิธีประหยัดพลังงานในองค์กร
         ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่กำลังสบาย อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 1 องศา ต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 5-10 หากอากาศไม่ร้อนเกินไป ควรเปิดพัดลมแทนเครื่องปรับอากาศถ้าเป็นไปได้ จะช่วยประหยัดไฟ ประหยัดเงินได้มากขึ้น
Sittichai Chaisongkam


วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557

MILL ส่งวิทยากร :คุณนัดธร บุราณดอน ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์

MILL ส่งวิทยากร คุณนัดธร บุราณดอน 
เจ้าหน้าที่ทรัพยากรบุคคลร่วมถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ ใน "โครงการฝึกอบรมเสริมความรู้ความเข้าใจ เรื่อง การส่งเสริมการมีงานทำให้คนพิการและการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ 2550" ในวันที่ 12 มิถุนายน 2557 ณ โรงแรมโกลเด้น ซิตี้ จ.ระยอง



วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Refresh 3 โอ รุ่น 1,2

ความในใจของเรา มุ่งมั่นพัฒนาตนเองเพื่อองค์กรของเราเติบโตอย่างยั่งยืนค่าาาา




Operation : สร้างกำไร รอรับของรางวัลกันนะคะ^^

กิจกรรม 3 โอ  "ประหยัดพลังงาน ลดต้นทุน เพิ่มกำไร " 


 Operation : สร้างกำไร  รอรับของรางวัลกันนะคะ^^
 
ช่วยกันประหยัดนะคะ ^^ ยังรอข้อเสนอแนะจากพี่ๆ เพื่อนทุกคนอยู่นะคะ 

มีตัวอย่างการตอบของแต่ละท่านให้ดูนะคะ
ท่านที่ 1


1. ปรับอุณหภูมิแอร์อย่างเหมาะสม

        ปรับอุณหภูมิแอร์ให้อยู่ในระดับ 25 องศาเซลเซียส

 2. ลดการใช้แอร์

  เลี่ยงการเปิดแอร์บ้าง อย่างวันไหนที่อากาศกำลังสบาย ไม่ร้อนจัดจนเกินไป เปิดแค่พัดลมและหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท

 3. ปิดก๊อกน้ำเมื่อไม่ใช้
 
 4. ถอดปลั๊กไฟทุกครั้งหลังใช้งาน

          เสียบปลั๊กทิ้งไว้ ก็สูญเสียพลังงานไฟฟ้าไปได้ถึง 0.002 กิโลวัตต์/ ชั่วโมง


5. ติดม่านป้องกันความร้อน

6. ล้างฟิลเตอร์แอร์และพัดลมฟอกอากาศเสมอ
ถ้าปล่อยให้ฝุ่นละอองสะสมอยู่ในฟิลเตอร์อย่างนั้น จะทำให้แอร์ทำงานหนักมากขึ้น เปลืองไฟอย่างใช่เหตุ


     
ท่านที่ 2

1. วิธีประหยัดพลังงานของบริษัท
    - ปรับแอร์ 25 องศา และปิดทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งาน

2. วิธีการเพิ่มผลผลิต
    - ปรับปรุง บำรุงรักษาเครื่องจักรให้พร้อมใช้งานเสมอ จะทำให้เครื่องจักรผลิตได้เต็มกำลังและต่อเนื่อง

3. วิธีการประหยัดทรัพยากรบริษัทฯ
    - ใช้กระดาษให้ครบ 2 หน้าก่อนทิ้ง

 ส่งกันมาได้อีกนะคะ เราจะรวบรวมข้อเสนอแนะด่างๆ ของทุกท่านส่งต่อๆกัน ติดบอร์ด เพื่อจะได้รวมกันประหยัด เพื่อลดต้นทุน และสร้างกำไร ให้กับบริษัทฯต่อไปค่ะ^^