“โกเบสตีล”
ยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมเหล็กญี่ปุ่น เอ็มโอยูร่วมลงทุนในมิลล์คอนสเปเชี่ยลสตีล
หวังรุกธุรกิจเหล็กลวดเกรดพิเศษ ป้อนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ในอาเซี่ยน
พลเอกวินัย
ภัททิยกุล ประธานกรรมการบริษัทมิลล์คอนสตีล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่
3 มิ.ย. 2558 ณ กรุงโตเกียว
ประเทศญี่ปุ่น บริษัทได้เซ็นสัญญา บันทึกความร่วมมือ หรือ MOU กับ บริษัทโกเบ สตีล จำกัด เพื่อเดินหน้าธุรกิจเหล็กลวดเกรดพิเศษ
ป้อนอุตสาหกรรมยานยนต์ ในภูมิภาคอาเซียน
พลเอกวินัย
กล่าวว่า จุดประสงค์ของการเซ็นสัญญา ความร่วมมือในครั้งนี้ โดยบริษัทโกเบสตีล
จะเข้ามาถือหุ้นในบริษัทมิลล์คอนสเปเชี่ยลสตีล โดยใส่เงินลงทุนในอุปกรณ์การผลิตเหล็กลวดเกรดพิเศษ
ซึ่งจะทำให้บริษัทเป็นรายแรกในประเทศไทย
และภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถผลิตเหล็กลวดเกรดพิเศษได้
สำหรับธุรกิจอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยมีการผลิตอยู่ที่
1.88 ล้านคันในปี2014 (ข้อมูลจากกรมอุตสาหกรรมไทย)และคาดว่าจะสูงถึง
3 ล้านคันในปี2020 (ข้อมูลจากCSM
worldwide) รวมถึงความต้องการในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่สูงขึ้นเรื่อยๆจากประเทศไทยและ
ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อินโดนิเชีย หรือ มาเลเซีย
ซึ่งชิ้นส่วนส่วนใหญ่ในประเทศไทยในปัจจุบันเกิดจากการนำเข้าทั้งหมด
โดยการผลิตเหล็กลวดเกรดพิเศษนั้น ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต
โดยจะยกขีดจำกัดความสามารถการผลิตให้กับตลาดประเทศไทย
ทั้งนี้
หากบริษัทสามารถผลิตเหล็กลวดเกรดพิเศษที่มีคุณภาพสามารถตอบโจทย์ความต้องการ
ของอุตสาหกรรมรถยนต์ได้จะสามารถเป็นฐานการผลิตเหล็กลวดเกรดพิเศษที่สำคัญใน
ประเทศไทย และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
สำหรับกลุ่มลูกค้าหลักที่มีความต้องการเหล็กลวดเกรดพิเศษประกอบด้วยกลุ่ม
ลูกค้าที่ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในประเทศไทยและอาเซี่ยน โดยปัจจุบันบริษัทมิลล์คอน
สเปเชี่ยลกำลังศึกษาแผนการผลิต ซึ่งหนึ่งในลูกค้าที่มีความเป็นไปได้คือ Kobe CH wire จำกัด ที่มีกำลังการผลิตประมาณ 54,000 ตันต่อปี และMahajak kyodo มีกำลังการผลิต 32,400 ตันต่อปี
สำหรับ บริษัท โกเบสตีล จำกัด
เป็นหนึ่งในผู้ผลิตเหล็กที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี
1905 ธุรกิจหลักคือ เป็นผู้ผลิตเหล็ก และเหล็กลวดเกรดพิเศษ
และธุรกิจอื่นๆ เช่น โรงไฟฟ้า โดยบริษัท โกเบสตีล จำกัด ได้ขยายฐานการผลิต
เพื่อรองรับความต้องการของตลาด เหล็กลวดเกรดพิเศษ ไปยังประเทศจีน สหรัฐอเมริกา
แม็กซิโก และประเทศไทย ซึ่งการเข้าร่วมลงทุนในครั้งนี้
จะเป็นการพัฒนากำลังการผลิตและการขยายตลาดของเหล็กลวดเกรดพิเศษ
ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาค เอเซียตะวันออกเฉียงใต้